Cook With Heart, Feed With Love™

การเลี้ยงลูกแมว สำหรับทาสแมวมือใหม่ต้องใส่ใจอะไรบ้าง

การเลี้ยงลูกแมว สำหรับทาสแมวมือใหม่แล้วนั้นต้องเตรียมข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเลี้ยงลูกแมว เพราะการเลี้ยงลูกแมวไม่ใช่เพียงแค่การเอาน้องแมวเหมียวมาอยู่กับเราเท่านั้น แต่เรายังต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ก่อนเลี้ยงตลอดจนเมื่อรับน้องมาอยู่ด้วย แล้วแบบนี้จะมีอะไรที่เราต้องใส่ใจบ้าง เริ่มจากอะไรดี มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยค่ะ

 

การเลือกน้องแมว

  • เลือกพันธ์ุไหนดี ?

แมวสายพันธุ์แท้อาจมีราคาแรงตั้งแต่หลักหมื่นขึ้นไป หากไหวก็ลุยเลย! ทั้งนี้สิ่งสำคัญคืออย่าลืมเอกสารสำคัญที่บ่งชี้ว่าแมวของคุณเป็นแมวสายพันธุ์แท้ที่มีสุขภาพดี หรือจะลองรับลูกแมวจากสถานสงเคราะห์สัตว์ต่าง ๆ มาเลี้ยงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าเรามีใจรักมากพอ ถือเป็นการช่วยให้ลูกแมวเหมียวได้มีบ้านใหม่ที่อบอุ่นและรายล้อมไปด้วยความรักค่ะ

  • ขนยาวหรือขนสั้น ?

ขนยาว : เหมาะกับผู้ที่มีเวลาดูแลน้องแมว เพราะต้องได้รับการดูแลขนทุกวันเพื่อให้ขนดูดีและไม่พันกันยุ่งเหยิง

ขนสั้น : เหมาะกับทาสแมวมือใหม่ เพราะไม่ต้องดูแลมากเท่าพันธุ์ขนยาว เพราะเจ้าแมวน้อยสามารถดูแลและทำความสะอาดขนเองได้ง่ายกว่า

  • ตัวผู้หรือตัวเมีย ?

ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนค่ะ แต่ถ้าต้องการเลี้ยงน้องแมวสองตัวไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม ก็ควรพาไปทำหมันก่อนที่จะเจริญพันธุ์นะคะเพราะการทำหมันจะส่งผลให้น้องแมวของเรามีนิสัยคล้ายกันมากขึ้นค่ะ ทำให้เลี้ยงเขาง่ายขึ้นเยอะเลยละค่ะ

 

ทั้งนี้ควรเลือกซื้อลูกแมวจากฟาร์มที่มีประวัติน่าเชื่อถือหรือมีใบรับรอง น่าไว้ใจค่ะ หรือจะไปเลือกดูลูกแมวที่ฟาร์มเลยก็ได้ เพื่อที่จะได้ดูการจัดการ การดูแลเอาใจใส่รวมถึงความสะอาดภายในฟาร์ม เพราะจะช่วยให้เราตัดสินใจซื้อลูกแมวได้ง่ายขึ้นค่ะ

การเลี้ยงน้องแมว

ก่อนจะพาน้องแมวเข้าบ้าน ต้องทำอะไรบ้าง

  • เลือกห้องให้น้องอยู่

ควรจะจัดสรรพื้นที่ให้ชัดเจน และห้องนั้นควรมีประตูหรือมีอะไรมากั้นไม่ให้ลูกแมวออกไปเที่ยวข้างนอก ควรเลือกห้องที่น้องแมวสามารถปีนป่ายหรือขึ้นที่สูงได้ง่ายเพื่อเป็นการฝึกความแข็งแรงไปในตัวและคุ้นเคยกับบ้านใหม่ได้ไวขึ้น

  • ชามอาหารและน้ำ

วางชามอาหารและน้ำไว้ให้ห่างจากกระบะทรายให้มากที่สุด เลือกใช้ชามก้นตื้นป้องกันปัญหาหนวดติดขอบชาม

  • กระบะทราย

ลูกแมวก็เหมือนเรานี่แหละค่ะ เวลาใช้ห้องน้ำก็ต้องการความสงบ จึงควรวางกระบะทรายไว้ที่บริเวณมุมห้องตรงข้ามประตู ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมถาดรองและที่โกยไว้ด้วยนะคะ

  • การปรับตัวของลูกแมว

เมื่อรับน้องเข้ามาอยู่บ้านใหม่ ๆ น้องแมวของเราก็จะกลายเป็นนักสำรวจทันทีแต่ก็จะขี้อายไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นช่วงแรกจะต้องเงียบกันสักเล็กน้อย และควรรอให้ลูกแมวเหมียวกล้าเข้ามาหาเราเอง มากกว่าที่เราจะเอาแต่เดินเข้าไปหาอยู่เสมอ เมื่อผ่านไปสักระค่อยพยายามทำให้ลูกแมวเหมียวคุ้นเคยกับการถูกอุ้มขึ้นมา

การเลี้ยงลูกแมว

 

การดูแลสุขภาพน้องแมว

  • การทำความสะอาดลูกแมว

สำหรับลูกแมวที่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ยังไม่ควรอาบน้ำ แต่ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวให้กับลูกแมวอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนการเริ่มอาบน้ำให้ลูกแมวนั้นควรเริ่มอาบได้ตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป เอาไดร์เป่าผมอุ่น ๆ เป่าขนให้แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนชื้น หรือเป็นเชื้อราได้ค่ะ และควรฝึกตัดเล็บ เช็ดหู ไว้ด้วยจะได้ไม่ดื้อเมื่อเริ่มโตขึ้น

  • การเปลี่ยนอาหารให้ลูกแมว

ลูกแมวจะเริ่มหย่านมในช่วง 6 – 8 สัปดาห์ ในช่วงนี้ควรให้อาหารแบบเม็ดหรืออาหารเปียกสำหรับลูกแมว ในหนึ่งวันควรให้อาหาร 3-4 มื้อ และควรหมั่นเปลี่ยนน้ำให้สะอาดไว้ตลอดเวลา

  • ฝึกการขับถ่าย

หากเป็นลูกแมวที่อยู่ในช่วงป้อนนม ควรใช้สำลีชุบกับน้ำอุ่นเช็ดไปที่ก้น โดยลูกแมวจะเริ่มมีการเกร็งตัวสักพักจะเริ่มขับถ่ายออกมา และเมื่อลูกแมวเริ่มเดินได้ ควรหากระบะทรายมาวางไว้ เพื่อฝึกให้ลูกแมวขับถ่ายให้เป็นที่ตั้งแต่เด็ก ๆ

  • การฉีดวัคซีน

เมื่อลูกแมวอายุครบ 6 สัปดาห์ ควรพาไปตรวจสุขภาพและเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุครบ 2 เดือน ทั้งนี้ควรฉีดวัคซีนตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำเพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกแมวของเรา

 

การเลี้ยงลูกแมวในช่วงแรกอาจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างมาก ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือความรับผิดชอบและความเอาใจใส่ของเราที่ต้องมีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ลูกแมวที่เราเลี้ยงนั้นได้รับความรักและการดูแลอย่างอบอุ่น และเติบโตเป็นแมวที่แข็งแรง สุขภาพดีค่ะ สำหรับบทความหน้าจะมีอะไรมาแนะนำอีก ต้องอย่าลืมติดตามกันนะคะ

อาหารสุนัข Netura High-quality meat / Grain-free เลือกอย่างไรให้ถูกใจน้องหมา

อาหารสุนัข จะเลือกซื้อทั้งที ก็ต้องอยากให้อาหารเหล่านี้ถูกใจสุนัขในบ้านเป็นธรรมดา แต่จะดีกว่าไหม? หากอาหารสุนัขที่คุณเลือกให้กับเจ้าตัวแสบแสนซื่อสัตย์ของคุณสามารถทำให้เขารู้สึกอร่อยถูกใจ มีความสุขทุกครั้งที่กินอาหารไปพร้อม ๆ กันกับโภชนาการที่ครบถ้วนแม่นยำ เสริมสร้างความแข็งแรงสุขภาพที่ดีให้น้องหมาได้อย่างตอบโจทย์ วันนี้ Buzz Pets food อาหารสุนัขพรีเมียม มีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกอาหารอย่างไร ให้ถูกใจน้องหมามาฝากค่ะ

อาหารสุนัข

อาหารสุนัข Netura High-quality meat / Grain-free คืออะไร? 

อาหารสุนัข Buzz Pets food สูตร Netura High-quality meat / Grain-free เป็นอาหารสุนัขที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศเบลเยี่ยม มีความโดดเด่นในเรื่องการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เป็นเกรดโฮลิสติกที่ถูกคัดสรรอย่างดี ตั้งแต่การใช้แหล่งโปรตีนแท้จากธรรมชาติ เลือกผักผลไม้ที่เน้นวิตามินสูง อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ปราศจากธัญพืช ช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องการเกิดภูมิแพ้ หรืออาการแพ้อาหารของน้องหมา ผ่านการคิดค้นเพื่อให้ได้สูตรเฉพาะที่เหมาะสมแต่ละสายพันธุ์ ขนาด มีทั้งหมด 2 สูตรด้วยกัน คือ 

  1. Buzz Netura – สูตรเนื้อปลาแซลมอน สำหรับสุนัขโตพันธุ์เล็ก
  2. Buzz Netura – สูตรเนื้อปลาแซลมอน สำหรับสุนัขโตพันธุ์กลาง-ใหญ่

ซึ่งจะตัดสินใจเลือกสูตรไหนแบบใดให้ที่น้องหมาที่บ้าน ก็เป็นหน้าที่ของคุณเจ้าของแล้วที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับสุนัขแต่ละสายพันธุ์ สัมพันธุ์กับอายุ และขนาดของสุนัขเอง เพื่อให้เขาได้รับสารอาหารและโภชนาการที่ครบถ้วน เติมเต็มสารอาหารทำให้น้องหมาสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงสมส่วนมากที่สุด

 

อาหารสุนัข

น้องหมาจะอร่อยได้โภชนาการครบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ 

ไม่ว่าจะเรื่องของกลิ่น สี ที่ทำให้สุนัขเจริญอาหาร รู้สึก Enjoy ทุกครั้งที่ได้กินอาหาร ไม่มีทีท่าว่าจะเบื่ออาหาร หรือฝั่งโภชนาการภายในอาหารมีความแม่นยำคุณประโยชน์สูงถูกใจเจ้าของสุนัข มีการคำนวณมาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับพันธุ์ ขนาดของสุนัข ทั้ง 2 อย่างนี้จะเป็นอย่างไรสิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับส่วนประกอบที่ถูกคัดสรรอย่างละเอียด พิถีพิถันทุกขั้นตอน สำหรับอาหารสุนัข สูตร Netura High-quality meat / Grain-free สามารถแบ่งสัดส่วนของส่วนประกอบได้เป็น 

– ส่วนผสมจากปลาแซลมอนแอตแลนติก (จับจากธรรมชาติ) 45% 

– คาร์โบไฮเดรตจากมันฝรั่งมันเทศ และถั่ว Peas 35% 

– ผลไม้ ผัก วิตามินและแร่ธาตุ 20% 

โดยสัดส่วนของโปรตีน ไขมัน ไฟเบอร์ แคลเซียม และสารอาหารอื่น ๆ จะถูกปรับเพิ่ม – ลดอย่างเหมาะสมให้ตรงกับโภชนาการตามสูตรสำหรับสุนัขพันธุ์เล็ก และสุนัขพันธุ์กลางถึงใหญ่ที่ควรได้รับ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะไม่มีส่วนผสมของไก่ หรือสัตว์ปีกเป็นส่วนประกอบ ไม่มีส่วนผสมของข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลืองเหมือนกับอาหารสุนัขทั่วไป ช่วยลดอาการแพ้อาหารที่เกิดขึ้นบ่อยในน้องหมา ไม่มีการแต่งกลิ่น แต่งสี แต่จะใช้กรรมวิธีในการผลิตเฉพาะจาก Buzz Pets food จึงทำให้ทั้งกลิ่นและรสชาติอยู่ครบถ้วนกระตุ้นความอยากอาหารให้น้องหมาเจริญอาหารขึ้นได้อีกหนึ่งขั้น ที่สำคัญเพราะอาหารสูตรนี้เป็นสูตรที่ผลิตจากปลา จึงช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสุนัขที่น้ำหนักเยอะ อ้วนกลมเกินเกณฑ์ อยากควบคุมน้ำหนักให้กลับมามีร่างกายที่สมส่วนสุขภาพดี สามารถวิ่งเล่นสนุกได้อย่างคล่องตัว 

 

เพราะสุขภาพในอนาคตของน้องหมาจะเป็นอย่างไร สาเหตุส่วนใหญ่มาจากอาหารการกินทั้งนั้น การดูแลเขาให้ดีที่สุดด้วยอาหารสุนัขคุณภาพสูงอย่าง Buzz Pets food สูตร Netura High-quality meat / Grain-free เกรดโฮลิสติก อาหารสุนัขที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ คัดสรร และพิถีพิถันทุกขั้นตอนจนได้สิ่งที่ดีต่อสุขภาพน้องหมา จะทำให้พวกเขาสดใสร่าเริง มีพลังงานเหลือล้นพร้อมเล่นสนุกกับคุณได้อย่างแข็งแรงสมวัยอย่างแน่นอน 

อยากเลี้ยง หมาใหญ่ อะไรที่ควรรู้

หมาใหญ่ เห็นทีไรก็อยากเลี้ยงทุกที เชื่อเลยว่าใครที่รักสุนัขเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเกิน 90% ต้องเคยโดนตกจากความตัวใหญ่น่าฟัดเหมือนหมี น่ารักใจดีระดับสิบของเจ้าพวกนี้อย่างแน่นอน แถมจะกอดจะเล่นแค่ไหนก็สู้มือ พลังงานเหลือล้นมีมากพอที่จะเล่นกับเราได้ทั้งวัน และเพราะความใหญ่โตของเขาเนี่ยละ จึงทำให้การเลี้ยงดูน้องหมาตัวใหญ่ค่อนข้างแตกต่าง มีข้อจำกัด และต้องใส่ใจมากกว่าสุนัขไซซ์เล็กพอสมควร ผู้เลี้ยงหรือคนที่กำลังมีโครงการว่าจะรับน้องหมาพันธุ์กลาง – ใหญ่มาเลี้ยงจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้ ศึกษา และเช็กความพร้อมของตัวเองเสียก่อน

 

หมาใหญ่

 

พันธุ์ ลักษณะนิสัย เรารับมือไหวไหม? 

น้องหมาใหญ่มีให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ไม่ได้แตกต่างกันแค่ลักษณะภายนอก หรือราคาค่าตัวของน้องเท่านั้น แต่เรื่องของลักษณะนิสัย ความฉลาดเชื่อฟัง พละกำลัง รวมไปถึงสิ่งที่ควรดูแล ระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โรคภัยไข้เจ็บ อาการป่วยของน้องหมาที่มีโอกาสเป็นง่ายก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง 

ยกตัวอย่างเช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หมาตัวใหญ่ขนสีทองเป็นมิตรกับทุกคนที่เข้าหา เป็นสุนัขที่ค่อนข้างฉลาด ซื่อสัตย์ และติดคนมาก ต้องการความรัก ความเอาใจใส่สูง ไม่ชอบโดนทิ้งให้อยู่ลำพัง โกลเด้นเป็นสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อสะโพกอักเสบง่าย เจ้าของจำเป็นต้องพาน้องออกกำลังกายบ่อย ๆ เพื่อให้กระดูก ไขข้อ และกล้ามเนื้อขาหลังแข็งแรง (การออกกำลังกายสามารถลดความเครียดให้สุนัขได้ด้วย) นอกจากนี้เมื่อสุนัขเริ่มอายุมากขึ้น มักจะมีปัญหาของโรคไขข้อสะโพกอักเสบ โรคเกี่ยวกับตา และโรคไต เจ้าของจำเป็นต้องระวังเรื่องนี้ไว้ให้มาก ๆ 

 

ที่อยู่อาศัย สถานที่เลี้ยง 

แน่นอนว่าการเลี้ยงน้องหมาตัวใหญ่ พื้นที่ในการเลี้ยงดูเขายอมต้องเยอะตามเป็นธรรมดา ยิ่งกับสุนัขบางพันธุ์ที่มีพลังการทำลายล้างสูง แรงเยอะ เป็นสุนัขที่ต้องออกกำลังกายเป็นประจำ สถานที่เลี้ยงยิ่งจำเป็นต้องมี Space เป็นบ้านที่ต้องมีบริเวณเพื่อซัพพอร์ตธรรมชาติของเขา มีที่ให้วิ่งได้ เล่นได้ มีรั้วรอบขอบชิดเพื่อไม่ให้สุนัขไปรบกวนเพื่อนบ้านคนอื่น ทำให้การตัดสินใจจะรับหมาใหญ่ซักตัวเข้ามาในบ้าน นอกจากการศึกษาสายพันธุ์ นิสัยให้ดีแล้ว เรื่องของที่อยู่อาศัย สถานที่เลี้ยงว่ามีความเหมาะสมกับสุนัขพันธุ์ที่คุณอยากเลี้ยงหรือเปล่าถือเป็น 1 ใน ปัจจัยสำคัญ ที่จะเป็นตัวกำหนดได้ทันทีว่าคุณพร้อมที่จะเลี้ยงน้องหมาใหญ่หรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีโอกาสส่งผลไปถึงสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตของสุนัขในอนาคตเลยทีเดียว

หมาใหญ่

 

อาหารที่ได้รับในแต่ละวัน 

“อาหาร” นับเป็นเรื่องใหญ่ที่จะกลายเป็นตัวชี้วัดสุขภาพของน้องหมาได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ความพิเศษที่ทำให้การให้อาหารของน้องหมาใหญ่แตกต่างจากพันธุ์อื่นคือ ปริมาณอาหารที่ให้จะเยอะตามขนาดตัว โภชนาการต้องครบถ้วนแม่นยำเพื่อให้เพียงพอเหมาะสมกับร่างกายสุนัขพันธุ์กลาง พันธุ์ใหญ่ในแต่ละวัน (จุดนี้ผู้เลี้ยงต้องระวัง การปริมาณอาหารไม่ควรให้น้อยไป หรือมากไป ควรอยู่ในปริมาณที่พอดีเพื่อให้น้องสมควร) ส่วนประกอบของอาหารจะเน้นไปทางโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ดูแลในเรื่องการให้พลังงาน บำรุงกระดูก ไขข้อ ฟันให้แข็งแรงสมบูรณ์ มีโอเมก้า 3 และ 6 ช่วยดูแลผิวหนัง บำรุงขนให้สวยเงางาม การเลือกอาหารสุนัขสำหรับสุนัขพันธุ์กลางและใหญ่จึงจำเป็นต้องเลือกให้ดี ทั้งในแง่ของวัตถุดิบว่ามีการใช้โปรตีนประเภทใดเป็นส่วนประกอบ ขนาดเม็ดอาหาร กลิ่น รสชาติที่ทำให้น้องหมาโปรดปราน และความแม่นยำของโภชนาการที่สามารถมอบให้สุนัขได้อย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับสายพันธุ์ของเขา 

แนะนำ Buzz Healthy Joints Formula อาหารสุนัขสูตรบำรุงข้อกระดูก ผลิตและนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย สำหรับสูตรนี้จะมีส่วนผสมของกลูโคซามีน ช่วยบำรุงข้อต่อและกระดูกโดยเฉพาะ ป้องกันความผิดปกติที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับกระดูก ชะลอการเสียดสีของกระดูกอ่อนในข้อต่อ ดูแลให้น้องหมาตัวโตของคุณสามารถวิ่งสนุก ร่าเริงอยู่กับคุณได้ยาว ๆ ลดความเสี่ยงโรคข้อกระดูกเสื่อม โรคยอดฮิตของหมาใหญ่ที่มักจะเจอเวลาที่พวกเขาอายุเยอะขึ้น 

หรือหากใครมีน้องหมาตัวใหญ่อยู่แล้วแต่น้องตัวอ้วนกลมเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีต่อสุนัขแน่นอน แนะนำอาหารสุนัข Buzz Netura สูตรเนื้อปลาแซลมอน ผลิตและนำเข้าจากประเทศเบลเยี่ยม เน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ดีที่สุดผ่านการคิดค้นเพื่อให้เหมาะกับน้องหมาตัวใหญ่โดยเฉพาะ ทั้งขนาดเม็ดอาหาร โภชนาการที่ตอบโจทย์ คอยดูแลเขาทั้งในเรื่องพลังงานอย่างเหมาะสม เล่นสนุกสมวัยได้ทั้งวัน 

 

เพราะการที่เราจะรับสมาชิกใหม่เข้าบ้านมาซักหนึ่งตัว นั้นหมายความว่าเราต้องรับผิดชอบชีวิตน้อง ๆ เหล่านี้ไปตลอดอายุขัยของเขา การศึกษาข้อมูล การเตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยงสุนัข โดยเฉพาะหมาใหญ่ที่มีข้อจำกัดในหลาย ๆ อย่างทั้งเรื่องสถานที่ งบ เวลาที่คุณต้องมีมากพอในการพาเขาไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ต้องคิดไปถึงอนาคต เมื่อน้องหมาเริ่มอายุเยอะ เวลาเจ็บป่วยคุณสามารถคุณสามารถขนย้าย หรือพาเขาไปพบสัตวแพทย์ได้ทันทีหรือไม่ แต่เชื่อเถอะว่าปัญหาเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น หากได้เจอกับความน่ารักสดใส ความซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ของน้องหมาที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตประจำวันของคุณอย่างแน่นอน  

แมวเบื่ออาหาร จะทำอย่างไรดี

แมวเบื่ออาหาร ปัญหาที่ทาสแมวหลาย ๆ คนต้องพบเจอ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะปัญหานี้แก้ไขได้

 

แมวเบื่ออาหาร ปัญหานี้เกิดจากอะไร ?

เมื่อน้องเหมียวที่บ้านเปลี่ยนไป จากเคยกินจุ กลับกินน้อยลง และ เซื่องซึมเหงาหงอย นี่อาจบ่งชี้ได้ว่า กำลังเกิดปัญหาแมวเบื่ออาหาร ซึ่งทาสแมวอย่างเราก็คงอยู่เฉยไม่ได้  เพราะปัญหานี้อาจเป็นหนึ่งในอาการที่แมวแสดงออก ในขณะที่น้องกำลังเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่กว่าก็ได้ เช่น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาสภาพแวดล้อม เป็นต้น

  • แมวเบื่ออาหารเพราะปัญหาสุขภาพ
  • ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ระบบขับถ่าย ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหาร ระบบสมอง หรือเป็นโรคผิวหนัง
  • ความเจ็บปวดจากบาดแผลในร่างกาย แผลในปาก เจ็บฟัน มีเศษก้างหรืออาหารติดคอ หรือเจ็บบาดแผลหลังผ่าตัด ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แมวกินอาหารน้อยลง
  • สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทำให้แมวเบื่ออาหาร

แมวมีนิสัยติดที่ ดังนั้นการย้ายที่อยู่ เปลี่ยนตำแหน่งวางจานอาหาร มีแมวตัวอื่นหรือคนแปลกหน้ามาอยู่ร่วมกันในบ้าน จึงส่งผลให้แมวเครียด เซื่องซึมและเบื่ออาหารได้

  • แมวเบื่ออาหาร เพราะติดสัด

ในช่วงนี้ แมวจะหมกมุ่นในการหาคู่ครอง สนใจเพศตรงข้ามมากกว่าอาหาร จึงไม่แปลกที่แมวในช่วงติดสัดจะอยากอาหารน้อยลง

  • อาหารไม่อร่อย และจำเจ ทำให้แมวเบื่ออาหาร

แมวก็เหมือนกับทาสแมวอย่างเรา ที่กินอาหารไม่อร่อยหรือจำเจแบบเดิมทุก ๆ วัน ก็คงไม่อยากกิน

แมวเบื่ออาหาร

แมวเบื่ออาหาร จะแก้ไขอย่างไรดี ?

หากทาสแมวเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของน้องเหมียว อย่าปล่อยปัญหาแมวเบื่ออาหารไว้ เพราะมันอาจบานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่เลยก็ได้ ทาสแมวจึงต้องหาวิธีแก้ไขโดยเร็ว ซึ่งเรามีวิธีดี ๆ ที่จะช่วยให้น้องเหมียวหายเบื่ออาหาร และกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม

  • หากสังเกตได้ว่า การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่แมวเคยอยู่ หรือเพิ่มจำนวนสมาชิกภายในบ้านนั้น ส่งผลกระทบต่อน้องเหมียว เพราะฉะนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดปัญหาแมวเบื่ออาหาร ทาสแมวจะต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ในช่วงแรก ๆ อาจต้องจัดที่อยู่ หรือตำแหน่งจานอาหารให้เหมือนเดิมมากที่สุด

ส่วนในกรณี มีสมาชิกใหม่มาอยู่เพิ่ม ทาสแมวอาจต้องแยกพื้นที่สัตว์เลี้ยงแต่ละตัวให้ชัดเจนไปเลย จะช่วยให้แมวเครียดน้อยลง ลดการเผชิญหน้า ลดการทะเลาะกันได้ด้วย

  • พาน้องเหมียวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจเช็กร่างกาย ในกรณีที่แมวเบื่ออาหารมากกว่า 3 วัน เพราะน้องอาจมีปัญหาสุขภาพ เป็นเหตุให้กินอาหารน้อยลงก็ได้
  • ลองเปลี่ยนอาหาร ทั้งยี่ห้อ และ ชนิดอาหาร อาจเพิ่มความหอมกรุ่นของกลิ่น คุณอาจจะอุ่นอุ่นอาหาร – แช่อาหารเม็ดให้พองขึ้น จะทำให้อาหารเคี้ยวง่ายและหอมมากขึ้น หรือที่นิยมทำกันมากคือการราดด้วยอาหารเปียก เพิ่มรสชาติให้ชวนน่ากินมากยิ่งขึ้น 
  • จัดมื้ออาหารน้องเหมียวให้ดี แมวควรได้รับอาหาร 2 มื้อ / วัน โดยแต่ละมื้อควรห่างกัน 8 – 12 ชั่วโมง ถ้าทาสแมวให้มากกว่านี้ก็ไม่แปลกที่แมวจะกินอาหารน้อยลง เพราะน้องคงจะอิ่มอยู่

 

จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนอาหาร เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาแมวเบื่ออาหารได้ แต่ทาสแมวก็ต้องเลือกอาหารแมวที่มีคุณภาพด้วย เพราะอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพและการเจริญเติบโต เราจึงต้องคัดสรรอาหารแมวที่ดีให้น้องเหมียวที่เรารัก อย่างอาหารแมว Buzz Balance Nutrition ที่อุดมด้วยสารอาหารจำเป็นครบถ้วน ไม่เเต่งสี โซเดียมต่ำ ไม่ใส่สารกันบูด อีกทั้ง มีให้เลือกหลากหลายรส ช่วยลดปัญหาแมวเบื่ออาหารได้อย่างแน่นอน

 

แมวดุ ก้าวร้าว เจ้าทาสจะแก้อย่างไรดี

แมวดุ ก้าวร้าว ชอบทำลายข้าวของ นับเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่เจ้าทาสแมวทั้งหลายต่างหนักใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากเราจะไม่สามารถเดาอารมณ์น้องแมวได้ อยากกอดอยากหอมก็ไม่รู้ว่าจะโดนฝากรอยตบ รอยข่วนเอาตอนไหน ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่มาจากค่ารักษาพยาบาล (ของตัวเอง) ค่าข้าวของที่น้องแมวแสดงพฤติกรรมทำลายข้าวของออกมาอีก จากที่จะเลี้ยงน้องไว้เป็นเพื่อนเล่น เพื่อความสบายใจอาจจะกลายเป็นหนักใจแทน 

การที่แมวดุ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับเจ้าของ หรือกับสัตว์ด้วยกัน มีพฤติกรรมชอบทำลายข้าวของต่างมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป ซึ่งทุกอย่างมีวิธีแก้ไข คุณสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของน้องได้ เพื่อทำให้แมวตัวโปรดของคุณกลับมาเป็นเจ้าตัวขี้อ้อนนิสัยน่ารักได้เหมือนเดิม 

 

เรียนรู้สาเหตุ อะไรที่ทำให้น้องแมวดุ 

การที่น้องแมวแสดงพฤติกรรมไม่น่ารักออกมา แน่นอนว่าต้องมีสาเหตุ ซึ่งสาเหตุของแมวแต่ละตัวขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ลักษณะนิสัย และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้การแสดงออกมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนที่คุณจะแก้ปัญหาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเจ้าแมวตัวแสบของคุณได้นั้น จำเป็นจะต้องทราบถึงสาเหตุของอาการดุร้ายก้าวร้าวในครั้งนี้ก่อน ที่พบเจอได้บ่อยมีดังนี้ 

แมวดุก้าวร้าว เพราะปัญหาสุขภาพ : บางทีการที่น้องแมวดุ อาจจะเป็นผลมาจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายจนทำให้รู้สึกไม่สบายตัว หงุดหงิดจนแสดงออกมาในรูปแบบของความรุนแรง 

แมวดุ

สภาพแวดล้อมกลายเป็นส่วนสำคัญ : การเลี้ยงแมวจำเป็นต้องมีพื้นที่ที่เป็นของเขา มีโซนขับถ่าย กระบะทรายสะอาด เปลี่ยนทรายใหม่อยู่เสมอ มีอุปกรณ์สำหรับฝนเล็บเพื่อลดการฝนเล็บกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านแทน ดังนั้นหากน้องแมวดุ หรือแสดงอาการก้าวร้าว ทำลายข้าวของออกมา ให้มาดูความพร้อมตรงนี้ก่อนว่าสภาพแวดล้อมที่คุณเตรียมไว้สะอาดดีหรือไม่ สามารถซัพพอร์ตธรรมชาติของแมวได้หรือเปล่า นอกจากนี้ความก้าวร้าวที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมยังมีเรื่องของการแสดงอาณาเขตเมื่อมีสัตว์ตัวใหม่เข้ามาในบ้านอีกด้วย  

ยั้งแรงไม่เป็น ไม่รู้จักวิธีใช้กรงเล็บ : เจอบ่อยมากโดยเฉพาะกับแมวเด็ก ไม่รู้จักวิธีใช้กรงเล็บ ยั้งแรงไม่เป็น ทำใหเวลาเล่นกับเราในบางครั้งเผลอเปิดเล็บจนทำให้เราบาดเจ็บ หรือเล่นแรงจนดูเหมือนแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา 

ก้าวร้าวเวลากลัว หรือถูกกระตุ้น : นิสัยใจคอ ความรู้สึกของแมวแต่ละตัวล้วนมีความแตกต่างกัน บางตัวขี้กลัว ขี้รำคาญ หรือรับความรู้สึกได้ไว ซึ่งการที่แมวดุ หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาเป็นผลมาจากความกลัว หรือได้รับแรงกระตุ้นมากจนเกินไป 

 

แมวดุ

แก้ปัญหาแมวดุ ทำได้อย่างไร? 

เมื่อคุณทราบถึงสาเหตุที่ทำให้น้องแมวดุแล้ว การหาวิธีแก้ปัญหาให้ตรงจุดก็ง่ายมากขึ้น หากน้องแมวของคุณดูท่าแล้วน่าจะก้าวร้าวจากอาการเจ็บป่วย หรือเกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก การพาน้องไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา ปรับเปลี่ยนพื้นที่ส่วนตัวของน้องแมวให้สะอาด ดูแลกระบะทรายให้ถูกหลักอนามัย มีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อแมวให้พร้อมในการใช้ชีวิตของเขา ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดค่ะ 

ส่วนสาเหตุที่มาจากลักษณะนิสัยของแมว เราอาจต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเทคนิคการฝึกฝนของเจ้าของ และตัวเจ้าแมวเหมียวเอง ว่าจะรู้เรื่องเร็ว เปิดรับในสิ่งที่เรากำลังจะบอกได้มากน้อยแค่ไหน 

ให้คุณลองทำำเป็นไม่สนใจ เมื่อน้องแมวของคุณเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือเริ่มเล่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ หยุดเล่น เดินหนี รอให้น้องแมวอารมณ์เย็นลงก่อน วิธีนี้จะทำให้แมวเรียนรู้ได้ว่าพฤติกรรมที่เขากำลังแสดงอยู่ทำให้เราไม่พอใจ เป็นการดัดนิสัยได้ดีกว่าการตีหรือขึ้นเสียงใส่อย่างแน่นอน ใช้อุปกรณ์ลับเล็บ ของเล่นต่าง ๆ แทนการเล่นกับเราโดยตรงหากน้องแมวเริ่มควบคุมการเปิด – ปิดเล็บไม่ได้ เล่นแรงยั้งตัวเองไม่เป็น หรือหากน้องแมวมีนิสัยขี้กลัวเป็นทุนเดิม คุณอาจจะสร้างสถานที่ที่เป็นเหมือนหลุมหลบภัย เป็น Comfort Zone ให้น้องแมวรู้สึกปลอดภัยเพื่อเซฟเขา หรือให้หากิจกรรม ดึงดูดความสนใจเพื่อให้เขาลืมความกลัว ถือเป็นการลดความดุ ลดความก้าวร้าวได้อีกหนึ่งทาง 

 

ปัญหาแมวดุ แมวก้าวร้าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับน้องแมวทุกตัวทั้งนั้น ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรัก ความเข้าใจ พยายามเรียนรู้ลักษณะนิสัยเขาพร้อมกับเลือกฝึกฝนน้องแมวด้วยวิธีที่เหมาะสมถือเป็นทางออกที่จะสามารถปราบพฤติกรรมก้าวร้าว เปลี่ยนแมวดุให้กลายเป็นแมวน้อยขี้อ้อนตัวเดิมได้ นอกจากนี้การดูแลเรื่องของอาหารการกิน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลสุขภาพน้องแมวโดยตรงทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ช่วยส่งเสริมให้เขาแข็งแรงสดใส ร่าเริงได้สมวัยได้ในทุกวัน แนะนำอาหารแมวสูตรพรีเมียมจาก Buzz Pet อาหารที่รู้ใจสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณมากที่สุด โดดเด่นทั้งในเรื่องโภชนาการ คุณค่าครบถ้วนด้วยวัตถุดิบที่ดีที่สุด กลิ่น รส ถูกใจน้องแมวเหมียวกินหมดชามแน่นอน 

 

รู้จัก หวัดแมว เพราะแมวก็ป่วยได้

น้องแมวเป็นหวัดหรือที่เรียกว่า หวัดแมว อาจติดต่อกันในหมู่แมวได้ ยิ่งบ้านไหนที่มีน้อง ๆ หลายตัวแล้วละก็ ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ดังนั้นการรู้ทันโรคหวัดแมวถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทาสแมวจะต้องรู้จักสังเกตเพื่อจะได้ป้องกันและรับมือให้เจ้านายของเหล่าทาสปลอดภัยจากหวัดแมว

 

หวัดแมว (Cat Flu) คืออะไร 

หวัดแมว (Cat Flu) คือโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ มีอาการคล้ายเป็นหวัด มักเกิดในที่ ๆ เลี้ยงแมวรวมกันจำนวนมาก ๆ อย่างบ้านใครที่เลี้ยงแมวเยอะ ๆ หรืออยู่ในชุมชนแออัดแล้วน้องแมวชอบแอบหนีไปประชุมลับกันบ่อย ๆ น้องแมวของเราก็ยิ่งมีโอกาสที่จะติดหวัดแมวมาจากแมวตัวอื่น หรือเป็นหวัดแมวได้ง่ายมากขึ้น โดยหวัดแมว เกิดจากเชื้อไวรัสสำคัญหลัก ๆ 2 ชนิดคือไวรัสแคลิซี (Calici virus) และไวรัสเฮอร์ปี (Herpes virus) 

ซึ่งในแมวที่เคยติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปี (Herpes virus) หลังจากหายแล้วจะกลายเป็นพาหะตลอดชีวิต ช่วงไหนที่เจ้านายของเราเครียดมาก ๆ ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นหวัดแมวซ้ำได้ง่าย ๆ  และถ้าหากแมวติดไวรัสแคลิซี (Calici virus) หลังจากหายหวัดแมวไปแล้ว ก็จะมีการแพร่เชื้อสู่สิ่งแวดล้อมได้อีกราว ๆ 2 อาทิตย์ – 1 เดือน แต่บางครั้งอาจยาวนานถึง 2 – 3 เดือน โดยแมวที่ได้รับเชื้อจะมีอาการอักเสบที่ตา โพรงจมูก หลอดลม หรือภายในช่องปากได้ 

 

วิธีสังเกตเบื้องต้นว่าน้องแมวเป็นหวัดแมวอยู่หรือเปล่า

  1. น้องแมวขยิบตาทั้งวัน อีกทั้งยังมีเปลือกตาบวมแดง มองแล้วดูเหมือนตาจะปิด อีกอาการคือมีขี้ตาเกรอะ เป็นก้อนเห็นได้ชัด
  2. น้องแมวมีกลิ่นปาก ปากเหม็น เหงือกแดงจนผิดสังเกต หรือมีน้ำลายไหลยืดตลอดวัน
  3. ปากและลิ้น มักจะเป็นแผลหลุมที่ปาก ลิ้น เพดาน ริมฝีปากหรืออาจจะลามมาที่ปลายจมูกได้
  4. น้องแมวไอและจามฮัดเช่ย ๆ อยู่บ่อย มีน้ำมูกไหล ทำเสียงฟึดฟัดทั้งวัน
  5. เบื่ออาหาร ไม่อยากกินอะไร
  6. มีอาการซึมผิดปกติ

หวัดแมว

ดูแลยังไงเมื่อน้องแมวเป็นหวัด

  1. แยกตัวที่ป่วยกับตัวอื่น ๆ ในบ้าน เพื่อป้องกันการติดต่อ
  2. ปรับอาหาร เพื่อช่วยให้กินอาหารได้ดีขึ้น
  3. แยกชามน้ำ ชามอาหาร เพราะการกินชามเดียวกันมักจะติดผ่านน้ำลาย หรือแม้แต่ของเล่นที่เจ้าเหมียวใช้ร่วมกัน
  4. เช็ดทำความสะอาดตาและจมูก เพื่อให้แมวหายใจสะดวกและรู้สึกสบายตัว
  5. ฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนตามโปรแกรม (แมวต้องมีอายุตั้งแต่ 2 เดือนเป็นต้นไป)

 

ดังนั้นถ้าอยากให้น้องแมวหรือเจ้านายของเหล่าทาสมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากหวัดแมวแล้วก็ต้องให้ความสำคัญครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อม สุขภาพร่างกาย หรือแม้กระทั่งอาหารการกินก็ตาม ดังนั้นควรเลือกอาหารให้ครบถ้วนและสมดุลทางโภชนาการด้วยโซเดียมต่ำและไม่มีสีสังเคราะห์ เพื่อสุขภาพพื้นฐานโดยรวมในระยะยาวของแมว อย่าง Buzz Pets Food แต่ละสูตรประกอบด้วยวิตามินและสารอาหารแบบเฉพาะ เพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพของแมวให้มากที่สุดโดยการใช้ส่วนผสมที่ละเอียดเหมาะกับน้องแมวทุกวัย

 

สุนัขหลังคลอด ต้องดูแลอย่างไร

สุนัขหลังคลอด ต้องได้รับการดูแลและสารอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างน้ำนมที่มีคุณภาพให้ลูกสุนัขได้กิน และฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสมบูรณ์แข็งแรงอีกครั้ง 

 

สภาวะของสุนัขหลังคลอด

       โดยปกติ แม่สุนัขหลังคลอด จะมีช่วงให้นมลูกประมาณ 8 – 9 สัปดาห์ ซึ่งสารอาหารที่แม่สุนัขได้รับจะนำไปใช้ในการสร้างน้ำนมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ช่วงหลังคลอดแม่สุนัขอาจซูบผอมไปบ้าง บางตัวอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว และอารมณ์ที่แปรปรวน ซึ่งเกิดจากสัญชาตญาณที่ต้องปกป้องลูก นอกจากนี้ สภาพขนของแม่สุนัขอาจดูหยาบกระด้างไม่เงางามเหมือนก่อน เนื่องจากช่วงตั้งท้องและให้นม แม่สุนัขจะถูกดึงโปรตีน แคลเซียม และฟอสฟอรัส จากร่างกายไปยังลูกสุนัขและน้ำนม จึงไม่แปลกที่หลังคลอดสภาพขนของน้องจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะสารอาหารเหล่านั้นเป็นส่วนประกอบจำเป็นต่อการมีสุขภาพขนที่ดี

ดังนั้น ในช่วงหลังคลอด นอกจากเจ้าของจะต้องใส่ใจดูแลลูกสุนัขแล้ว แม่สุนัขก็ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อมและอาหารการกิน

สุนัขหลังคลอด

 

ดูแลสุนัขหลังคลอด ต้องทำอย่างไรบ้าง

  • ในช่วงแรกหลังคลอด ควรจัดพื้นที่ให้แม่และลูกสุนัขอยู่ โดยอากาศต้องถ่ายเทสะดวก ไม่มีสิ่งรบกวน เช่น สุนัขตัวอื่น คน ยุง แมลงวัน เป็นต้น เพราะในช่วงนี้แม่สุนัขจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว เพราะหวงลูก 

 

  • ไม่อาบน้ำสุนัขหลังคลอด ควรรอ 2 – 3 สัปดาห์ และต้องอาบโดยใช้แชมพูอ่อน ๆ สำหรับสุนัขโดยเฉพาะ เนื่องจากหากอาบน้ำทันที อาจมีสารตกค้างจากแชมพูติดตามตัวแม่สุนัข ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อลูกสุนัขได้ในขณะดูดนม

 

  • พาสุนัขหลังคลอดไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ เพื่อตรวจเช็กการฟื้นตัว และหาความผิดปกติของร่างกาย จะได้รักษาได้ทันท่วงที

 

  • แม่สุนัขต้องได้รับอาหารและน้ำสะอาดที่เพียงพอ โดยสุนัขหลังคลอดจะต้องใช้พลังงานมากเป็นพิเศษเพื่อสร้างน้ำนม เจ้าของจะต้องให้อาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน โดยเพิ่มปริมาณมากขึ้นเป็น 2 – 3 เท่า จากปริมาณเดิมที่เคยให้ และเพิ่มจำนวนมื้ออาหารให้น้องเป็น 2 – 4 มื้อ / วัน ในช่วง 2 – 5 สัปดาห์แรกหลังคลอด หลังจากนั้น ค่อย ๆ ปรับปริมาณและมื้ออาหารให้ลดลง จนเหลือ 2 มื้อ / วัน ในปริมาณปกติ เพราะในช่วงสัปดาห์หลัง ๆ แม่สุนัขจะเริ่มสร้างน้ำนมน้อยลงแล้ว

 

เพราะอาหารที่ดี ส่งผลต่อสุขภาพของสุนัขโดยตรง เจ้าของอย่างเรา จึงใส่ใจดูแลด้วยการเลือกอาหารสุนัขที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ อย่างแคลเซียม และ ฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อสุนัขหลังคลอด อย่าง Buzz Balance Nutrition อาหารสุนัขพรีเมียม ไม่แต่งสี โซเดียมต่ำ ไม่ใส่สารกันบูด ที่มีสารอาหารครบถ้วนตามที่แม่สุนัขต้องการ พร้อมมีหลากหลายรสให้เลือก ตอบโจทย์เจ้าของที่อยากดูแลและฟื้นฟูสุนัขหลังคลอดให้กลับมาแข็งแรงได้ดังเดิมเป็นอย่างยิ่ง

 

มารู้จักกับปัญหา ช่องปากสุนัข กัน

รู้หรือไม่ น้องหมาก็มีปัญหา ช่องปากสุนัข กว่า 90 % เจ้าของสุนัขส่วนใหญ่ไม่คิดว่าสุนัขจะมีปัญหาช่องปาก ทำให้มองข้ามการดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา

 

สัญญาณเตือน ปัญหาช่องปากสุนัข
ลักษณะช่องปากสุนัขที่สุขภาพดี ต้องมีฟันสะอาด ไม่มีคราบจุลินทรีย์ และหินปูน เหงือกเป็นสีชมพู ไม่ร่นแนบติดกับตัวฟัน อีกทั้งมีขอบเขตของเหงือกที่ชัดเจน ถ้าช่องปากสุนัขของคุณมีลักษณะเช่นนี้ ก็บ่งชี้ได้ว่าน้องมีสุขภาพช่องปากที่ดี ได้รับการดูแลรักษาความสะอาดเป็นประจำ แต่หากคุณพบกับสัญญาณเหล่านี้แทน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าสุนัขกำลังเผชิญกับปัญหาช่องปากอยู่ก็ได้

  • มีกลิ่นปาก โดยมีสาเหตุจากแบคทีเรียสะสมและหมักหมมอยู่ในช่องปาก แสดงให้เห็นว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น มีแผลในช่องปาก อักเสบและเป็นตุ่มหนอง เลือดออกในช่องปาก นอกจากนี้ โรคต่าง ๆ อย่าง โรคไต โรคเบาหวาน ก็ทำให้น้องหมามีกลิ่นปากผิดปกติได้เช่นกัน
  • น้ำลายไหลยืดผิดปกติ เป็นอาการหนึ่งที่บ่งบอกความผิดปกติได้หลายอย่าง เช่น มีเนื้องอกในช่องปาก เหงือกอักเสบรุนแรง คราบหินปูนจำนวนมาก มีการติดเชื้อที่ระบบประสาท  หรืออาจได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
  • ฟันเปลี่ยนสี แสดงให้เห็นว่ามีการสะสมของคราบหินปูนจำนวนมาก อาจเป็นโรคทางพันธุกรรม หรืออาจมีการติดเชื้อบริเวณรากฟัน
  • เหงือกบวมแดง อักเสบ เป็นสัญญาณของปัญหาช่องปากสุนัข ไม่ว่าจะเป็น โรคปริทันต์ เหงือกร่น ฟันโยก ฟันหลุด ซึ่งส่งผลให้น้องหมาไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ

ช่องปากสุนัข

ปัญหาช่องปากสุนัขที่ควรรู้ มีอะไรบ้าง? 

เมื่อพบสัญญาณเตือนดังกล่าว ให้สงสัยได้เลยว่า น้องอาจมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น โดยสุนัขกลุ่มที่เสี่ยงจะมีปัญหาช่องปาก คือ สุนัขที่มีอายุมากกว่า 3 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาที่มักจะพบ มีดังนี้

 

  • คราบพลัคและหินปูน ปัญหาช่องปากสุนัขที่ต้องกำจัดออก
  • คราบพลัค หรือคราบจุลินทรีย์ เกิดจากแบคทีเรียจากอาหารที่กินเข้าไปรวมตัวกับน้ำลาย กลายเป็นแผ่นฟิล์มเหนียว ๆ ปกคลุมพื้นผิวฟัน เมื่อไม่ได้รับการกำจัดออกด้วยการแปรงฟันหรือขูดหินปูน ภายใน 3 – 5 วัน คราบพลัคเหล่านั้นจะรวมตัวกับแร่ธาตุในน้ำลาย แข็งตัวกลายเป็นหินปูนเกาะอยู่บนฟันสุนัข การสะสมของหินปูนจำนวนมากเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นปาก และอาการเหงือกอักเสบ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการสูญเสียฟัน

     

  • โรคปริทันต์ ปัญหาช่องปากสุนัขที่เป็นต้นต่อของการสูญเสียฟัน
  • เมื่อคราบพลัคและหินปูนสะสมจำนานมาก โดยเฉพาะบริเวณขอบและร่องเหงือก จะทำให้จำนวนแบคทีเรียก่อโรคเพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะตอบสนองเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะปริทันต์ ได้แก่ เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ เคลือบรากฟัน และกระดูกเบ้าฟัน โดยอาการของโรคจะแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่
    • ระยะที่ 1 เหงือกอักเสบ

    เหงือกมีลักษณะบวมแดง อาจมีเลือดออกตามร่องเหงือก ในระยะนี้สามารถกลับมาเป็นปกติได้หากกำจัดคราบพลัคและหินปูนออกจนหมด

    • ระยะที่ 2 ปริทันต์อักเสบ

    เป็นระยะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยท้ายที่สุดจะเกิดการสลายของเอ็นยึดปริทันต์ และกระดูกเบ้าฟัน เป็นเหตุให้สูญเสียฟัน ซึ่งอาการที่พบในช่องนี้ คือ มีกลิ่นปาก เลือดออกตามขอบเหงือก เจ็บปวดรุนแรงทุกครั้งที่สัมผัสปาก กินอาการลดลงอย่างเห็นได้ชัด หากมีอาการติดเชื้อที่โพรงรากฟัน จะพบฝีหรือแผลเรื้อรังที่ใบหน้าบริเวณใต้ตา เป็นลักษณะบ่งชี้

    นอกจากนี้ เชื้อแบคทีเรียก่อโรคตัวนี้ ยังสามารถแพร่ไปยังหลอดเลือด ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด และก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ด้วย เช่น โรคตับ โรคหัวใจ

    เมื่อพบอาการผิดปกติที่บ่งชี้โรค เจ้าของควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที ก่อนจะปานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่

    ดูแลช่องปากสุนัข เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

    เพราะปัญหาช่องปากสุนัข สร้างผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพโดยรวม ทางที่ดี ตัวเจ้าของอย่างเราควรดูแลและป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นด้วยวิธีเหล่านี้

    • ทำความสะอาดช่องปากและฟันเป็นประจำ ด้วยการแปรงฟัน โดยควรเริ่มฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขเพื่อสร้างความเคยชิน หรืออาจใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การให้ขนมสุนัขที่ช่วยขัดฟัน
    • พาสุนัขไปตรวจสุขภาพช่องปากและฟันกับสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง 

    สุนัข

    นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพช่องปากสุนัข การเลือกอาหารสุนัขที่ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตครบถ้วน มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง อย่าง Buzz Balance Nutrition ก็เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของต้องเลือกสรรให้น้องหมาที่คุณรัก เพื่อร่างกายที่แข็งแรง และสุขภาพช่องปากที่ดี