สุนัขแก่ ต้องดูแลอย่างไรดี? แน่นอนว่าถ้าน้องหมาอยู่กับเรา ใช้ชีวิตกับเราจนแก่ได้ขนาดนี้ ความรัก ความผูกพันย่อมต้องมีมากขึ้นทุกวันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวไปแล้วอย่างแน่นอน แต่ร่างกายของสุนัขก็เหมือนมนุษย์เรานั่นแหละ พออายุเยอะขึ้น สังขารก็ต้องมีโรยราตามกาลเวลาเป็นเรื่องธรรมดา ความแข็งแรงมีไม่เหมือนเดิม ต้องระมัดระวังหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ตั้งแต่อาหารการกิน การใช้ชีวิต ซึ่งไม่ต่างจากการดูแลผู้สูงอายุเลย จึงเป็นหน้าที่ของผู้เลี้ยงเองที่ต้องใส่ใจดูแลในเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่จะต้องดูแลอย่างไร? มีความแตกต่างจากการดูแลน้องหมาวัยหนุ่มสาวอย่างไร อาหารสุนัข BUZZ PETS มีเคล็ดลับการดูแลมาฝาก   

สุนัขเริ่มแก่แล้ว สังเกตอย่างไร? 

อยู่ด้วยกันทุกวัน บางทีคุณอาจจะไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของสุนัขเท่าไรนัก ตามปกติแล้วสุนัขจะเริ่มแก่เมื่อเข้าสู่ปีที่ 8 ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของน้องหมาแต่ละพันธุ์
  • สุนัขพันธุ์เล็ก จะเริ่มแก่เมื่ออายุเข้าปีที่  8 และอายุยืนถึง 14 -15 ปี
  • สุนัขพันธุ์กลาง จะเริ่มแก่เมื่ออายุ 6 – 7 ปี และอายุยืนถึงประมาณ 12 ปี 
  • สุนัขพันธุ์ใหญ่ จะเริ่มแก่เมื่ออายุ 5 - 6 ปี และอายุยืนได้ถึง 10 ปี
  แต่นอกจากเรื่องของอายุแล้ว คุณยังสามารถสังเกตได้ลักษณะทางร่างกาย นิสัย ความขี้เล่นที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุขัย เช่น สีขน หากเป็นสุนัขที่มีหลายสี สีส่วนที่เข้มสุดจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีอ่อนลงก่อนโดยเฉพาะขนบริเวณปาก ใบหน้า จะเปลี่ยนชัดเจนมาก น้องหมาเริ่มเคลื่อนไหวช้าลง ไม่คล่องตัวเหมือนแต่ก่อน มีอาการเหนื่อยง่ายเพิ่มเติม นอนบ่อยมากขึ้น บางตัวอาจมีอาการตาฝาง ผิวหนังเริ่มมีกระเนื้อเพิ่มขึ้น  เมื่อความคล่องตัวไม่เหมือนเดิม ระบบภายในร่างกายเริ่มลดประสิทธิภาพในการทำงานลง ความขี้เล่น ความบ้าพลังเริ่มลดลงโรยราไปตามอายุ การดูแลน้องหมาก็ต้องเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม ซัพพอร์ตกับร่างกายที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ เพื่อให้น้องหมาอยู่กับเราอย่างแข็งแรงไปได้อีกยาว ๆ   สุนัข  

“อาหาร” สิ่งสำคัญที่ต้องเปลี่ยนแปลง 

น้องหมาก็เหมือนกับเรา ที่พอแก่ตัวลงท้องไส้ก็เริ่มไม่คอยดี ย่อยอาหารยาก ท้องอืดบ่อย อึถ่ายไม่สะดวก แนะนำให้ลองเปลี่ยนมาให้น้องหมากินอาหารสุนัขที่มีโปรตีนในปริมาณที่พอดีเพื่อลดการทำงานของไต มีไขมันน้อยเพื่อให้เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวันเท่านั้น และมีส่วนประกอบของไฟเบอร์สูง เพื่อให้น้องหมาย่อยอาหาร และขับถ่ายได้อย่างปกติ คุณอาจจะต้องดูให้ลึกไปถึงส่วนประกอบที่ใช้ผลิตอาหารเลย แนะนำให้เลือกอาหารสุนัขที่ใช้เนื้อแกะเป็นหลัก เพราะเนื้อแกะถือเป็นแหล่งโปรตีนที่สัตว์เลี้ยงมีโอกาสแพ้น้อยมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายมากกว่าเนื้อแดงประเภทอื่น ๆ เปลี่ยนเวลาและปริมาณอาหารที่ให้เป็นประจำ จากปกติที่ให้น้องหมากิน 1 มื้อในปริมาณเยอะ ๆ ทีเดียวจบ คุณอาจต้องเปลี่ยนแบ่งเป็น 2 มื้อ แล้วลดปริมาณในแต่ละมื้อแทน นอกจากนี้ควรมีน้ำดื่มวางไว้ให้น้องหมาตลอดเวลาด้วย สุนัข

การดูแลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สำคัญ 

นอกจากเรื่องอาหารแล้ว การดูแลน้องหมาในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สำคัญมาก และทำให้เขาได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ดังนี้ สถานที่นอน : ควรรองที่นอนของน้องหมาให้นุ่มสบายมากขึ้น เพื่อลดแรงเสียดทานที่จะเกิดขึ้นกับข้อต่อต่าง ๆ หรืออาการปวดเนื้อปวดตัวของสุนัขเมื่อเริ่มแก่ตัวลง   การขับถ่าย : พอเริ่มแก่อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเจอคือเรื่องอั้นฉี่ ควรพาน้องหมาไปขับถ่ายให้บ่อยขึ้น หรือทำมุมปลดทุกข์ให้สุนัขไปเลย  การออกกำลังกาย : ความบ้าพลังอาจจะหดหายไปบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้สุนัขนั่งซึมไม่พาไป Relax หรือออกกำลังกายเลย สิ่งนี้ยังสำคัญกับสุนัขอยู่ แต่แค่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับร่างกาย ไม่ควรเป็นกิจกรรมที่ส่งผลเสียต่อข้อต่อ กระดูก หรือใช้พลังงานเยอะ หักโหมจนเกินไป  การทำความสะอาด : สุขลักษณะของสุนัขยังคงเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าน้องหมาจะอยู่ในวัยไหน ยิ่งกับสุนัขแก่ที่ร่างกายเคลื่อนไหวลำบาก เริ่มทำความสะอาดขนตัวเองไม่ได้ มีปัญหาช่องปากที่เริ่มกินอาหารแข็ง ๆ ไม่ได้ เริ่มมีหินปูนเกาะซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดเหงือกอักเสบแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามส่งผลต่อน้องหมาในอนาคต (อีกไม่ไกล) การใส่ใจในเรื่องนี้จะช่วยน้องหมาได้เยอะ  เพราะน้องหมาบางตัวเป็นมากกว่าเพื่อนต่างพันธุ์ แต่เขาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพัน การดูแลเขาให้ดีที่สุดในวันที่เขาแก่ตัวลงจึงเป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงอย่างเรา ๆ ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้เขาสุขภาพแข็งแรง มีความสุขสนุกสนานกับเราไปได้เรื่อย ๆ