Cook With Heart, Feed With Love™

แมวเป็นนิ่ว เพราะอาหาร จริงไหม?

ทาสแมวหลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อที่ว่า “แมวกินอาหารโปรตีนสูงจะเสี่ยงเป็นนิ่ว” จนบางครั้งอาจกังวลใจและไม่กล้าเลือกอาหารดี ๆ ให้กับน้องเหมียว วันนี้ Buzz จะมาคลายความสงสัยและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ปัญหาแมวเป็นนิ่ว เพื่อให้คุณดูแลเจ้าเหมียวได้อย่างสบายใจ

ปัญหาแมวเป็นนิ่ว เกี่ยวกับโปรตีนในอาหารจริงหรือ?

คำตอบคือ: ไม่จริง! หากโปรตีนนั้นเป็นโปรตีนคุณภาพ

การที่แมวเป็นนิ่ว ไม่ได้เกิดจากการกินอาหารโปรตีนสูงโดยตรงเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าโปรตีนนั้นเป็นโปรตีนคุณภาพดี การเป็นนิ่วมักเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ที่ซับซ้อนกว่านั้น เช่น การกินอาหารที่มาจาก By-Product หรือผลพลอยได้จากสัตว์ปีกที่ควบคุมคุณภาพไม่ดีพอ ทำให้แมวได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุในปัสสาวะ หรือการเปลี่ยนแปลงค่า pH ของปัสสาวะ ที่เอื้อต่อการก่อตัวของผลึกนิ่วได้

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการเลือกอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพ ไม่ใช่แค่ปริมาณโปรตีนสูงอย่างเดียว

เพื่อสุขภาพที่ดี ควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนเนื้อสัตว์แท้ ย่อยง่าย และร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้สูง

การเลือกอาหารที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการป้องกัน นิ่วในแมว เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมว ควรพิจารณาเลือกอาหารที่มีคุณสมบัติดังนี้:

  1. ดูจากแหล่งที่มา: ควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนจากแหล่งที่มาที่ชัดเจนและมีคุณภาพสูง เช่น เนื้อปลาสด เนื้อไก่ หรือปลาแฮร์ริ่ง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายและดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
  2. กรดอะมิโนจำเป็น: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารมีกรดอะมิโนจำเป็นที่สำคัญสำหรับแมวครบถ้วน เช่น ทอรีน (Taurine), อาร์จินีน (Arginine), และเมไทโอนีน (Methionine) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมและระบบทางเดินปัสสาวะ
  3. หลีกเลี่ยงโปรตีนที่ไม่ชัดเจน หรือ By-Product ไม่ระบุแหล่ง: โปรตีนที่ไม่ระบุแหล่งที่มา หรือ “By-Product” ที่ไม่ชัดเจน อาจมีคุณภาพต่ำและย่อยยาก ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวในระยะยาวได้

Buzz Netura Holistic Grain-Free

ตัวช่วยดูแลสุขภาพให้น้องแมวห่างลดโอกาส ปัญหาแมวเป็นนิ่ว

Buzz เข้าใจดีว่าทาสแมวทุกคนอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับน้องเหมียว เราจึงพัฒนาอาหารแมว Buzz Netura Holistic Grain-Free สูตรที่เน้นโภชนาการแบบองค์รวม เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนของน้องแมว

  • โปรตีนคุณภาพสูง: ด้วยส่วนผสมหลักจากเนื้อแท้ อาทิ ปลาสีขาว ปลาแฮร์ริ่ง และเนื้อไก่ ช่วยให้น้องแมวได้รับโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย และนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
  • ปราศจากธัญพืช (Grain-Free): ลดความเสี่ยงในการแพ้อาหาร ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะและสุขภาพโดยรวม
  • อุดมด้วยสารอาหารครบถ้วน: มีกรดอะมิโนจำเป็นและแร่ธาตุที่สมดุล ช่วยบำรุงสุขภาพทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิด นิ่วในแมว
  • รสชาติอร่อยถูกใจ: น้องแมวจะได้รับสารอาหารครบถ้วนไปพร้อมกับความอร่อยในทุก ๆ มื้อ

ปัญหาแมวเป็นนิ่ว ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล หากเราเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงและเลือกอาหารที่เหมาะสมให้กับน้องแมว ด้วย Buzz Netura Holistic Grain-Free  สามารถมั่นใจได้ว่าน้องแมวที่คุณรักจะได้รับโภชนาการที่ดีที่สุด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และห่างไกลจากโรคนิ่วได้อย่างมีความสุข


หมายเหตุ: หากน้องแมวมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าจะเป็น นิ่วในแมว เช่น ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย มีเลือดปน หรือเจ็บปวด ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

แมวขนร่วง หนักมาก ทำยังไงดี? รวม วิธีแก้แมวขนร่วง ที่ทาสแมวควรรู้!

ปัญหาแมวขนร่วง เป็นเรื่องปกติที่ทาสแมวหลายคนกังวลใจ แต่อย่าเพิ่งตกใจไป! การที่น้องเหมียวขนร่วงมากผิดปกติ อาจมีหลายสาเหตุ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงสาเหตุและ วิธีแก้แมวขนร่วง ที่ตรงจุด พร้อมแนะนำตัวช่วยดี ๆ อย่างอาหารแมว Buzz ที่จะช่วยดูแลสุขภาพขนและผิวหนังของน้องแมวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

ปัญหาแมวขนร่วง เกิดจากอะไร?

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจกันว่า ปัญหาแมวขนร่วง เกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง เพื่อให้เราสามารถแก้ไขได้ตรงจุด และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้กับน้องแมวที่คุณรัก

ตามข้อมูลจากภาพประกอบ สาเหตุหลักๆ ของ ปัญหาแมวขนร่วง มีดังนี้:

  • โรคผิวหนัง เชื้อรา: หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด สังเกตได้จากอาการคัน เกา แผล หรือผิวหนังอักเสบร่วมด้วย
  • อาการแพ้: น้องแมวอาจมีอาการแพ้อาหาร ฝุ่นละออง หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ซึ่งส่งผลให้ขนร่วงได้
  • ภาวะความเครียด: แมวเป็นสัตว์ที่อ่อนไหว ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม การย้ายบ้าน หรือการมีสัตว์เลี้ยงใหม่ ก็ส่งผลให้ขนร่วงได้เช่นกัน
  • ขาดสารอาหาร หรือได้รับโปรตีนมากเกินไป: โภชนาการที่ไม่เหมาะสมส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพขนและผิวหนัง การขาดสารอาหารบางชนิด หรือแม้แต่การได้รับโปรตีนมากเกินไป ก็ทำให้เกิด ปัญหาแมวขนร่วง ได้
  • ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงผลัดขน ตั้งท้อง หรือมีโรคเกี่ยวกับฮอร์โมน ก็อาจทำให้ขนร่วงได้

วิธีแก้แมวขนร่วง ที่ได้ผลจริง!

เมื่อทราบถึงสาเหตุแล้ว เรามาดู วิธีแก้แมวขนร่วง กันบ้าง ซึ่งครอบคลุมทั้งการดูแลเบื้องต้นและการปรับปรุงโภชนาการ:

  1. หมั่นทำความสะอาด: การแปรงขนให้น้องแมวเป็นประจำทุกวัน จะช่วยกำจัดขนที่หลุดร่วงและสิ่งสกปรกออกไป ลดการสะสมของเชื้อโรค และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ขนขึ้นใหม่แข็งแรง
  2. พาไปพบสัตวแพทย์: หากสงสัยว่าน้องแมวมีอาการป่วยจากโรคผิวหนัง เชื้อรา หรือมีความผิดปกติอื่นๆ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี
  3. การเลือกอาหารที่สำคัญที่สุด: นี่คือหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหา! เพราะการเลือกอาหารแมวที่ครบถ้วนและสมดุลทางโภชนาการ จะช่วยบำรุงขนและผิวหนังจากภายในสู่ภายนอก

    ขอแนะนำ Buzz อาหารเม็ดสำหรับน้องแมว ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 สูตร เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ:

    • BUZZ ADVANCED NUTRITION HAIR & SKIN : สูตรนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับน้องแมวที่ต้องการดูแลผิวหนังและเส้นขน เพื่อลด ปัญหาขนร่วง หรือต้องการบำรุงผิวหนังเป็นพิเศษ อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพขน เช่น ไบโอติน โอเมก้า 3 และ 6 ช่วยลดการหลุดร่วงของขน ทำให้ขนนุ่มสวย เงางาม
    • BUZZ BEYOND PREMIUM GLUTEN FREE: สูตรปราศจากกลูเตน  ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้และปัญหาระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพขนได้เช่นกัน
    • BUZZ HOLISTIC GRAIN-FREE: สำหรับน้องแมว  จะช่วยลดโอกาสเกิดอาการแพ้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของ ปัญหาแมวขนร่วง พร้อมทั้งมอบสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการแบบองค์รวม

ทำไมต้องเลือก Buzz สำหรับ ปัญหาแมวขนร่วง ของน้องแมว?

Buzz ไม่ได้เป็นเพียงอาหารแมวทั่วไป แต่  Buzz  เข้าใจโภชนาการสำหรับสัตว์เลี้ยง ด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบที่มีคุณภาพผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน Buzz มุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมวทุกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Buzz มี อาหารที่ดูแลตรงความต้องการช่วยดูแลได้อย่างตรงจุด

จำไว้ว่า การดูแลเอาใจใส่อย่างถูกวิธี และการเลือกอาหารที่เหมาะสม เป็นกุญแจสำคัญในการลดปัญหา แมวขนร่วง ลองให้ Buzz เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลน้องแมว แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน!

Buzz กินดีแจกฟรี แสนซอง


Buzz แจกฟรี “แสนซองงงง!” สำหรับลูกค้าใหม่

สำหรับเจ้าของน้องหมาน้องแมวที่ยังไม่เคยให้ Buzz Netura
Buzz Pets Food มีแคมเปญให้คนรักแมว รักหมา ได้ลิ้มลองอาหารจาก Buzz พิสูจน์คุณภาพ! กับ Buzz กินดีแจกฟรีแสนซอง
ลงทะเบียนรับอาหารตัวอย่างตอนนี้ https://buzzpetsfood-survey.netlify.app/


ลงทะเบียน รับอาหารจาก Buzz เพื่อรับ เทสเตอร์ Buzz Netura ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งสูตรสำหรับสุนัขและแมว รวมกว่าแสนซอง!
Buzz Netura อาหารเกรด Holistic Grain Free นำเข้าจากเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ความอร่อยสำหรับน้องหมาน้องแมว สัมผัสได้ถึงความแตกต่างเพื่อสุขภาพดี


ลงทะเบียนตอนนี้จะได้รับ:

  • ฟรี! เทสเตอร์ Buzz Netura (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ส่งตรงถึงบ้าน
  • ส่วนลดพิเศษ 15% สำหรับการสั่งซื้อครั้งแรกที่ BUZZ Official Store บนแอป Shopee

เงื่อนไขการรับสิทธิ์:

  • สำหรับลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ Buzz Netura มาก่อนเท่านั้น
  • จำกัด เทสเตอร์ 1 ซอง ต่อ 1 ที่อยู่
  • ลงทะเบียนรับอาหารตัวอย่าง ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

วิธีการรับชุดเทสเตอร์:

ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนผ่านลิงก์  หรือสแกน QR Code แล้วรอรับชุดเทสเตอร์ส่งตรงถึงบ้านคุณภายใน 30 วัน

Buzz หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Buzz Netura จะเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์สุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงทุกตัว


เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

#Buzz #BuzzPetsFood #BuzzNetura #BuzzNeturaDog #BuzzNeturaCat #Buzzกินดีแจกฟรีแสนซอง #อาหารสุนัข #อาหารแมว

Continue reading “Buzz กินดีแจกฟรี แสนซอง”

ไขข้อสงสัย: “แมวติดสัด ผอมลงจริงไหม?” พร้อมวิธีรับมือที่ทาสแมวควรรู้!

แมวติดสัด หรือ แมวฮีท (Estrus) คืออะไร?

“แมวติดสัด” หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “แมวฮีท” คือช่วงเวลาที่ฮอร์โมนในร่างกายของน้องแมวมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์ โดยปกติแล้ว อาการติดสัดจะเริ่มขึ้นในแมวเพศเมียที่มีอายุตั้งแต่ 4-10 เดือนขึ้นไป และสามารถเกิดขึ้นได้เป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมวที่ไม่ได้รับการทำหมัน เมื่อน้องแมวมีอายุมากขึ้น ฮอร์โมนที่ทำให้เกิดอาการติดสัดจะลดลงไปเอง

สัญญาณที่บ่งบอกว่า “น้องแมวติดสัด”

หากน้องแมวของคุณกำลังอยู่ในช่วงติดสัด คุณอาจสังเกตเห็นอาการเหล่านี้:

  1. ก้าวร้าวและไม่เป็นมิตร: น้องแมวอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น หงุดหงิดง่าย หรือไม่ยอมให้จับต้องตัวเหมือนปกติ
  2. กระวนกระวาย อยากจะหนีออกนอกบ้าน: น้องแมวจะแสดงความกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด เดินวนไปมา ร้องเรียก หรือพยายามหาทางออกนอกบ้านเพื่อไปหาคู่
  3. ร้องหง่าวโหยหวนทั้งคืนทั้งวันไม่ยอมกินข้าว: นี่คืออาการที่พบได้บ่อยที่สุด น้องแมวจะส่งเสียงร้องหง่าวอย่างต่อเนื่องและดังขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแมวเพศผู้ อาการนี้อาจทำให้น้องกินอาหารน้อยลงหรือไม่กินเลย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักลดลง และเป็นที่มาของคำถามที่ว่า “แมวติดสัดผอมลงจริงไหม” นั่นเองค่ะ

สรุปคือ: แมวติดสัด “ผอมลงจริง”  สาเหตุหลักมาจากการที่น้องแมวเครียด กังวล และโฟกัสกับการหาคู่ ทำให้กินอาหารน้อยลง หรือไม่ยอมกินเลยในช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก

วิธีดูแลและรับมือน้องแมวช่วงติดสัด

เมื่อทราบแล้วว่าน้องแมวติดสัดผอมลงได้จริง แล้วเราจะดูแลน้องอย่างไรดี? นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทาสแมวสามารถนำไปปรับใช้ได้เลย

  1. หากันชนหูให้น้อง: การหากันชนหู (ear muffs) หรืออุปกรณ์ลดเสียงรบกวนให้น้องแมว อาจช่วยลดความเครียดและอาการก้าวร้าวที่เกิดจากความอยากออกไปหาคู่ได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  2. ใช้กัญชาแมว (Catnip): กัญชาแมวสามารถช่วยบรรเทาอาการเครียดและทำให้น้องแมวรู้สึกผ่อนคลายได้ชั่วคราวประมาณ 1-2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผลของกัญชาแมวขึ้นอยู่กับแต่ละตัว ควรทดลองใช้ในปริมาณน้อย ๆ ก่อน
  3. ใช้ปลั๊กอินฟีโรโมน (FELIWAY หรือ PHEROMONE) สังเคราะห์: ผลิตภัณฑ์ฟีโรโมนสังเคราะห์สำหรับแมว เช่น Feliway สามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลายให้กับน้องแมวได้ โดยจะปล่อยฟีโรโมนที่เลียนแบบฟีโรโมนตามธรรมชาติของแมว ซึ่งช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ดีเยี่ยม ควรเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  4. ดูแลกระบะทรายให้สะอาดอยู่เสมอ: แมวที่กำลังติดสัดอาจจะมีการขับถ่ายที่ถี่ขึ้น หรืออาจจะปัสสาวะไม่เป็นที่ การรักษากระบะทรายให้สะอาดอยู่เสมอจะช่วยลดความเครียดและทำให้แมวรู้สึกสบายตัวมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำหมัน!

วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับอาการติดสัดของแมว และป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมา รวมถึงการตั้งท้องที่ไม่พึงประสงค์ และการลดความเสี่ยงของการเป็นโรคต่าง ๆ ในระบบสืบพันธุ์ คือการ ทำหมัน การทำหมันจะช่วยปรับฮอร์โมนของน้องแมวให้กลับมาเป็นปกติ ทำให้พฤติกรรมก้าวร้าวหรืออาการร้องหง่าวลดลง น้องแมวจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทาสแมวทุกท่านที่กำลังประสบปัญหาน้องแมวติดสัดนะคะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับน้องแมวของคุณได้เลย

5 เคล็ดลับคลายเครียดให้น้องหมาแมวเหมียวช่วงหน้าฝน

เข้าสู่หน้าฝนทีไร เจ้าตูบเจ้าเหมียวที่บ้านมีอาการเครียด กลัวเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือเสียงฝนตกหนัก ๆ กันบ้างไหมคะ? เสียงที่ดังและคาดเดาไม่ได้เหล่านี้อาจทำให้น้องหมาน้องแมวรู้สึกไม่สบายใจและวิตกกังวลได้ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ Buzz มี 5 เคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้น้อง ๆ รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย แม้ฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ตาม

1. จัดมุมสงบ ปลอดภัยให้น้อง ๆ

ลองหาพื้นที่ที่เงียบสงบและปลอดภัยสำหรับน้องหมาน้องแมวของคุณ เช่น ใต้โต๊ะ ใต้เตียง หรือมุมห้องที่มิดชิด จากนั้นปูผ้าหนานุ่ม หรือเบาะรองนอนให้น้อง ๆ ได้ซุกตัว ความรู้สึกที่ได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวที่อบอุ่นจะช่วยให้น้องรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นค่ะ

2. สวมเสื้อหรือห่มผ้าให้น้อง

การสวมเสื้อที่พอดีตัว หรือใช้ผ้าห่มผืนโปรดคลุมตัวน้องหมาน้องแมวไว้ จะช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นและกระชับ เหมือนมีคนกอดอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกปลอดภัยนี้จะช่วยลดความตื่นตระหนกจากเสียงภายนอกได้เป็นอย่างดี ลองสังเกตว่าน้องชอบผ้าแบบไหนเป็นพิเศษ แล้วจัดหาให้น้องนะคะ

3. ปิดหน้าต่างและม่านให้สนิท

เพื่อลดเสียงรบกวนจากฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือเสียงฝนที่ตกกระทบหน้าต่าง ให้ปิดหน้าต่างและรูดม่านให้สนิท นอกจากจะช่วยลดเสียงแล้ว ยังช่วยให้น้องไม่เห็นแสงแฟลชจากฟ้าผ่า ซึ่งอาจทำให้น้องตกใจได้อีกด้วย

4. อยู่ใกล้ ๆ โดยไม่ต้องพูดเยอะ

บางครั้งแค่การที่คุณอยู่ใกล้ ๆ น้องก็เพียงพอแล้วค่ะ การนั่งอยู่ข้าง ๆ ลูบหัวเบา ๆ หรือแค่ให้น้องได้ซบตักโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก จะทำให้น้องรู้ว่า “เราอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหนนะ” ความรู้สึกว่ามีเจ้าของอยู่ใกล้ ๆ จะช่วยให้น้องสงบลงได้มากเลยล่ะค่ะ

5. หาขนมหรืออาหารให้น้องเคี้ยวเพลิน ๆ

การให้น้องหมาน้องแมวได้เคี้ยวอะไรบางอย่าง เช่น ขนมขัดฟัน หรืออาหารที่ต้องใช้เวลาเคี้ยวนาน ๆ จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากเสียงฝนที่ดังอยู่ภายนอก น้องจะโฟกัสกับการเคี้ยวอาหารแทน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียดลงได้ค่ะ


จำไว้นะคะว่า ฝนตกหนักแค่ไหนก็ไม่เท่าใจเราที่เป็นห่วงน้อง การดูแลเอาใจใส่น้องหมาน้องแมวในช่วงเวลาที่พวกเขากลัว จะช่วยให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและลดความเครียดลงได้มากเลยค่ะ อย่าลืมนำเคล็ดลับเหล่านี้จาก Buzz ไปปรับใช้กันดูนะคะ!

BUZZ ขอเชิญชวนเล่าเรื่องราว ในกิจกรรม “สุขภาพดีต้องแชร์ BUZZ Netura”

Buzz

กติกาในการร่วมสนุกกิจกรรม

  1. ถ่ายรูปภาพหรือวิดีโอ ของน้องหมา/น้องแมว ที่มีรูปถุงอาหาร Buzz Netura เป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์
  2. บอกเล่าเรื่องราว ว่า “สุขภาพน้องหมา/น้องแมวดีขึ้นอย่างไร หลังจากกิน Buzz Netura”
  3. โพสต์เป็นสาธารณะ บน Facebook หรือ TikTok ในช่องทางของผู้ร่วมกิจกรรม
  4. แท็ก ช่องทาง Facebook หรือ TikTok ของ Buzz Pets Food
  5. ใส่ 2 Hashtag #BuzzNetura #HealthyWithBuzzNetura

เพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษ! ดังต่อไปนี้

  • รางวัลที่ 1: จี้ทองคำ 1 สลึง มูลค่า 14,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 2: เครื่องให้อาหารสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ มูลค่า 4,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 3: รถเข็นสัตว์เลี้ยง มูลค่า 1,500 บาท จำนวน 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 4: น้ำพุสัตว์เลี้ยง มูลค่า 1,200 บาท จำนวน 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 5: ที่นอนสัตว์เลี้ยง มูลค่า 500 บาท จำนวน 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 6-20: Premium Gift set จาก Buzz Pets Food โดยแต่ละ Premium Gift Set จะประกอบด้วย
    • ชามอาหารสัตว์เลี้ยง มูลค่า 129 บาท จำนวน 1 ชิ้น
    • ที่ตักอาหาร 1 ชิ้น มูลค่า 49 บาท จำนวน 1 ชิ้น
    • อาหารสัตว์เลี้ยง Buzz Netura Cat ปลาและไก่ขนาด 1 กิโลกรัม มูลค่า 279 บาท จำนวน 1 ถุง หรือ อาหารสัตว์เลี้ยง Buzz Netura Dog ไก่ขนาด 800 กรัม มูลค่า 239 บาท จำนวน 1 ถุง
  • รางวัลที่ 21-50: Gift set จาก Buzz Pets Food โดยแต่ละ Gift Set จะประกอบด้วย
    • ผ้าพันคอ มูลค่า 89 บาท จำนวน 1 ชิ้น
    • อาหารทดลอง Netura มูลค่า 25 บาท จำนวน 1 ชิ้น

รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้น 50 รางวัล 31,361 บาท (ในกรณีแมว) และ 30,761 บาท (ในกรณีหมา)


ระยะเวลาร่วมสนุก : วันที่ 2 มิถุนายน 2568 – 30 มิถุนายน 2568 เวลา 23.59 น.


วิธีการคัดเลือก

คณะกรรมการจะคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลจากการทำคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาถูกต้องและสร้างสรรค์มากที่สุด จำนวน 50 ท่าน ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 12.00 น. ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท ออสแทม กู๊ดส์ จำกัด


ประกาศรายชื่อผู้โชคดี : วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 น. ผ่านช่องทาง Facebook เพจ Buzz Pets Food


หมายเหตุ

  • สงวนสิทธิ์สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทำถูกต้องตามกติกาที่กำหนดไว้ด้านบนเท่านั้น
  • ผู้ชนะที่ได้รางวัลจี้ทองคำ จะต้องชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 5% ให้กับผู้แจกรางวัล เพื่อให้มีการนำส่งภาษีตามกฎหมายกำหนด ในจำนวน 718.38 บาท
  • สามารถร่วมกิจกรรมได้ไม่จำกัดจำนวนโพสต์ และสามารถโพสต์ผลงานได้หลายครั้ง แต่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถได้รับรางวัลเพียง 1 สิทธิ์ (ที่มีมูลค่าสูงสุด) เท่านั้น ในกรณีที่ได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งจากกิจกรรมนี้ไปแล้ว จะไม่มีสิทธิ์ได้รับรางวัลอื่นอีก
  • ผู้ที่มีรายชื่อได้รับรางวัลจากกิจกรรมจะต้องรายงานตัวยืนยันสิทธิ์ภายในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ก่อนเวลา 18:00 น. หากไม่แสดงตนเพื่อยืนยันสิทธิ์ภายในเวลาที่กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการสละสิทธิ์การได้รับรางวัล และจะไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ประโยชน์ใด ๆ ได้
  • ผู้ได้รับรางวัลจากกิจกรรมจะต้องคงโพสต์ที่ร่วมกิจกรรมไว้ตลอดไป หากมีการตรวจสอบพบว่ามีการลบโพสต์ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิ์การได้รับรางวัล หรือเรียกคืนของรางวัล ตามที่บริษัทฯ ได้พิจารณา
  • ของรางวัลจากกิจกรรมไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือโอนสิทธิ์ให้แก่ผู้อื่นได้ในทุกกรณี
  • ของรางวัลจากกิจกรรมจะถูกจัดส่งให้ภายใน 30 วันทำการ หลังจากที่ได้ยืนยันสิทธิ์และบริษัทฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว สำหรับของรางวัลบางรายการอาจมีการนัดหมายวัน เวลา และสถานที่เพื่อเข้ารับของรางวัล หากไม่สะดวกหรือไม่สามารถมารับได้ตามวัน เวลา สถานที่ที่กำหนด และมีการยกเลิกนัดหมายโดยมิได้แจ้งให้บริษัทฯ ทราบล่วงหน้า บริษัทฯ ขอพิจารณายกเลิกสิทธิ์ในการได้รับของรางวัลโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • เมื่อร่วมกิจกรรม ถือว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทำความเข้าใจและตกลงยอมรับในกติกาของกิจกรรมนี้แล้ว และ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ หรือแสดงรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว เพื่อประโยชน์สำหรับกิจกรรมทางการตลาด การโฆษณา รวมทั้งวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีสิทธิ์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ร่วมกิจกรรมสำหรับวัตถุประสงค์ที่เหมาะสม อย่างเช่น การใช้ชื่อ และ นามสกุล เพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการตลาดในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สื่อวิทยุ โทรทัศน์ สื่อกลางแจ้ง สื่ออินเทอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์ และ อื่นๆ ซึ่งทางบริษัทฯ ถือว่าได้รับอนุญาตจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการเข้าร่วมสนุก และรางวัลตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกของรางวัลจากกิจกรรมทุกกรณี
  • ผลการตัดสินทั้งหมด ถือเป็นสิทธิ์ขาดตามดุลพินิจของคณะกรรมการและให้ถือเป็นที่สิ้นสุด
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ห้ามพนักงานและลูกจ้างภายใต้บริษัทฯ เข้าร่วมกิจกรรมนี้ หากมีการตรวจพบ บริษัทฯ ขอพิจารณาตัดสิทธิ์การเข้าร่วมกิจกรรมทันที